โพลท์นี้สำหรับวันวาเลนไทน์

เหมือนจะไม่ได้เขียนบล๊อกมาซักพักนึงแล้วอาจจะเป็นเพราะขี้เกียจไม่ว่าง ลืมหรืออะไรก็ตาม แต่เมื่อวานนี้ ระหว่างขับรถกลับมาบ้านที่นนทบุรี นึกขึ้นได้ว่าตอนจะลงทางด่วนมีร้านเบอเกอร์อยู่ร้านนึงโปรโมทแองกัสเบอเกอร์มาพักนึงแล้ว แต่ที่ยังไม่ได้กินก็เพราะว่ายังเสียดายเงินอยู่

เมื่อวานนี้ด้วยความหิว เลยเปิดไฟเลี้ยวเข้าไปจอดรถโลดสั่งเบอเกอร์เนื้อแองกัสมากินโดยพลัน เบอเกอร์แองกัสที่นี่มีสองเมนูให้เลือกครับ คือเฉพาะเบอเกอร์ ราคา 225 บาท และรวมเป็นชุด มีฟรายและน้ำอัดลมให้ด้วย ผมเลือกแบบเบอเกอร์อย่างเดียว ตั้งใจว่าจะกินช้าๆ เพื่อลิ้มรสเนื้อแองกัสว่าเป็นอย่างไร

โคแองกัสเป็นโคเนื้อพันธ์เก่าแก่ ไม่มีเขา และมีสีดำสนิททั้งตัว (อาจจะยกเว้นบริเวณเต้านม) เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงทั้งในอังกฤษ อเมริกา และออสเตรเลีย ถ้าใครอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับโคแองกัสลองดูได้จากที่ https://en.wikipedia.org/wiki/Angus_cattle นะครับ

เท่าที่สังเกตุเบอเกอร์ดู จะเป็นเนื้อบด ย่างสุก ซ้อนด้วยชีสหนึ่งแผ่น แต่ที่ทำให้ดูหรูหราก็คือจะมีเบคอนซ้อนมาในเบอเกอร์ด้วย แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหิวจัดหรืออร่อยมากก็ไม่ทราบได้ ผมกินอย่างกับคนจรจัด เบอเกอร์ชิ้นเบ้อเริ่ม หมดภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที ไม่ได้รู้สึกดื่มด่ำกับรสชาติใดๆทั้งนั้น แถมยังไม่อิ่ม อยากจะไปวิ่งอีกก้อนมากินต่อ แต่ก็เสียดายเงิน ไม่เอาดีกว่า จึงเดินขึ้นรถกลับบ้านมาโดยเร็วเพราะกลัวจะอดใจไม่ไหว

ผมรู้สึกว่าอาหารฟาสต์ฟู้ตมีราคาแพงขึ้นทุกๆวัน โดยเฉพาะร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังต่างๆที่เรารู้จักกันดี เงินสองสามร้อยบาท กินมื้อเดียวยังไม่อิ่มเลย สู้เอาเงินไปกินอาหารที่มีประโยชน์ได้ทั้งหลายมื้อครับ แต่ผมก็ยังอดใจที่จะกินอาหารพวกนี้ไม่ได้เสียที เอาเป็นว่า นานๆครั้ง พอเป็นรางวัลให้กับปากตัวเองก็แล้วกัน อย่าให้มากจนเกินไปจนมีปัญหากับค่าใช้จ่ายหรือสุขภาพก็แล้วกันครับ

วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ ผมเปิดฟังเพลงจากคลื่นวิทยุที่ชอบก็คือ 104.5 เมกะเฮริทซ์ วันอาทิตย์มีนักจัดรายการที่ผมชอบฟังมาเปิดเพลงให้ฟังตั้งแต่บ่ายโมง ถึงสี่โมงเย็น ผมชอบฟังคุณเด่น นริศ พันธุเมธา จัดรายการมาก เพราะสไตล์เพลงที่เปิด รวมกับการมีเรื่องเล่าดีๆมาให้ฟังอยู่เสมอ ทำให้ไม่เบื่อเลย ผมเคยจำเรื่องเล่าของคุณเด่นไปเล่าเป็นนิทานก่อนนอนให้แฟน (เก่า) ฟังด้วยนะครับ โรแมนติกมากๆ

วันนี้มีคนส่งตำนานเกี่ยวกับวาเลนไทน์มาให้ผมอ่านหลายคน แต่ผมชอบเรื่องที่คุณเด่นเล่าออกอากาศทางรายการวิทยุมากที่สุด  ก็เลยเอามาเขียนบล๊อกในวันนี้ด้วยเลย เรื่องมีอยู่ว่า

เมื่อพระเจ้ากำลังสร้างโลกอยู่นั้น พระองค์ได้ประทานทุ่งนาแปลงหนึ่งให้กับชายและหญิงคู่หนึ่ง พระองค์บอกพวกเขาถึงวิธีการสร้างกระท่อม ให้เสียมอันหนึ่งกับผู้ชาย และให้เมล็ดพันธ์ข้าวกำมือหนึ่งแก่ผู้หญิง และตรัสว่า "พวกเจ้าจงไป และขยายพืชพันธุ์ออกไป อีกหนึ่งปีข้าจะกลับมา มาดูว่าพวกเจ้าทำอะไรกันไปได้บ้าง"

หนึ่งปีต่อมา พระองค์ก็กลับมาพร้อมด้วยกาเบรียล ประมุขทูตสวรรค์ พระองค์ได้เห็นข้าวสาลีกําลังสุกเหลืองอร่ามในนา ผู้ชายกับผู้หญิงกําลังนั่งอยู่หน้ากระท่อม ข้างๆมีเปลและเด็กทารกคนหนึ่งกําลังหลับอยู่ในนั้น ชายและหญิงมองดูทารกแล้วหันมาสบตากัน เมื่อสายตาของทั้งสองประสานกัน พระเจ้าได้มองเห็นความงามที่สุดจะพรรณนาได้ ได้เห็นพลังลึกลับอย่างหนึ่ง และพระองค์ได้เห็นว่า ชายและหญิงนั้นเป็นสิ่งเนรมิตที่งดงามที่สุดในบรรดาสิ่งเนรมิตทั้งมวลของพระองค์ "นั่นคืออะไร" พระเจ้าทรงถามประมุขทูตสวรรค์ ประมุขทูตสวรรค์ตอบว่า "นั่นคือความรัก" พระเจ้าทรงพิโรธเป็นฟืนเป็นไฟ "ถ้าเช่นนั้น เจ้าทั้งสองจะต้องถูกลงโทษ นับแต่นี้ไป เจ้าจะเริ่มแก่ วัยเยาว์และพละกําลังของเจ้าจะค่อยๆเสื่อมถอยลงไปทุกโมงยาม ข้าจะกลับมาในอีก 50 ปีข้างหน้าเพื่อดูว่าในตอนนั้น ยังจะมีอะไรเหลืออยู่ในดวงตาของเจ้ามนุษย์"

 Landscape with wheat sheaves and rising moon.jpg
CR: Wikipedia

เมื่อเวลาผ่านไป 50 ปี พระเจ้าทรงกลับมาและได้เห็นข้าวสาลีสุกปลั่งอยู่ในทุ่งมีบ้านสร้างด้วยปีกไม้ซุงแทนที่กระท่อม มีสวนอยู่ในที่ที่เคยเป็นที่รกร้างว่างเปล่าพวกลูกชายกําลังไถนาอยู่ในนา พวกลูกสาวกําลังเก็บเกี่ยวข้าวสาลีและพวกหลานๆกําลังวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งหญ้า ชายชราและหญิงชรานั่งอยู่หน้าบ้าน ทั้งสองมองดูท้องฟ้าแดงอร่ามยามพระอาทิตย์ตกดินแล้วก็มองตากัน อีกครั้งที่พระเจ้าได้มองเห็นพลังอย่างหนึ่งที่แรงกล้ายิ่งกว่า และอัศจรรย์ลํ้าเลิศยิ่งกว่าในดวงตาคู่นั้น "คราวนี้มันเป็นอะไรอีกล่ะ" พระเจ้าทรงถามประมุขทูตสววรค์ "มันคือความซือสัตย์" ประมุขทูตสววรค์ตอบ พระเจ้าทรงพิโรธเป็นฟืนเป็นไฟยิงกว่าครั้งก่อน "นี่! เจ้าพวกมนุษย์ ความชรายังไม่สาแก่ใจพวกเจ้าดอกหรือ ข้าจะให้พวกเจ้ามีชีวิตอยู่บนโลกในช่วงเวลาสั้นๆ แล้วข้าจะกลับมาดูว่า ความรักของพวกเจ้าจะเป็นฉันใด"

พระเจ้าทรงกลับมาในเวลาสามปีต่อมา ทรงเห็นชายชรานั่งอยู่เหนือเนินดิน นัยน์ตาของชายชราเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง แต่ยังมีประกายแห่งพลังที่น่าอัศจรรย์อยู่ดังเดิม ในดวงตาคู่นั้น พระเจ้าทรงจําได้ว่า มันคือความรักและความซือสัตย์ แต่ครังนี้ ... ยังมีอย่างอืนอีกในนัยน์ตาคู่นั้น "คราวนี้อะไรอีกล่ะ" พระเจ้าทรงถามประมุขทูตสววรค์ "มันคือความทรงจําในหัวใจ" ประมุขทูตสววรค์ตอบ
พระเจ้าทรงนิ่งแล้วเดินจากไป แต่แล้ว..ทรงหยุดหันไปมองดูทุ่งข้าวสาลีและรุ่งอรุณที่กําลังเรืองรอง พระเจ้าทรงเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวท่ามกลางรวงข้าวสีทอง พวกเขาจ้องมองไปที่ท้องฟ้าอันจํารัสเจิดจ้า แล้วก็จ้องมองนัยน์ตาซึ่งกันและกัน พระเจ้าทรงยืนเฝ้ามองอยู่เป็นเวลานาน แล้วทรงจากไปด้วยความครุ่นคิดคํานึง...

จาก หนังสือ "หนึ่งถ้วยกาแฟ" โดย "คนเดิม" พศ. 2527
เล่าโดย ดีเจเด่น เดนเวอร์ 104.5MHz 14 ก.พ. 2559


CR: ร้านหนังสือเสรีบุ๊ค
วิธีการเล่าเรื่องของคุณเด่นจะเป็นวิธีการเล่าเรื่องไปช่วงนึง แล้วก็เปิดเพลงคั่นเรื่องที่เล่า สลับกันไป แต่ที่ประทับใจก็คือ ตอนเที่เล่าเรื่องนี้จบแล้ว คุณเด่นเลือกที่จะเปิดเพลงของ Collin Raye ในการปิดเรื่อง เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมประทับใจมากเพลงหนึ่ง เป็นเรื่องของเด็กผู้ชายคนหนึ่งเล่าเรื่องราวที่เขาเจอในสมัยที่เขาอายุ 15 เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณปู่ของเขา

I read a note my grandma wrote back in nineteen twenty-three.
Grandpa kept it in his coat, and he showed it once to me. He said,
"Boy, you might not understand, but a long, long time ago,
Grandma's daddy didn't like me none, but I loved your Grandma so."

We had this crazy plan to meet and run away together.
Get married in the first town we came to, and live forever.
But nailed to the tree where we were supposed to meet, instead
Of her, I found this letter, and this is what it said:

If you get there before I do, don't give up on me.
I'll meet you when my chores are through;
I don't know how long I'll be.
But I'm not gonna let you down, darling wait and see.
And between now and then, till I see you again,
I'll be loving you. Love, me.

I read those words just hours before my Grandma passed away,
In the doorway of a church where me and Grandpa stopped to pray.
I know I'd never seen him cry in all my fifteen years;
But as he said these words to her, his eyes filled up with tears.

If you get there before I do, don't give up on me.
I'll meet you when my chores are through;
I don't know how long I'll be.
But I'm not gonna let you down, darling wait and see.
And between now and then, till I see you again,
I'll be loving you. Love, me.
Between now and then, till I see you again,
I'll be loving you. Love, me.

ถ้าใครอยากจะฟังเพลงนี้เต็มๆก็ลองเข้าไปดูที่ยูทูปนี้ได้นะครับ https://goo.gl/RQ2TZv

Увидимся / See you again.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สัปดาห์แรกของปีใหม่

วันแรกของปี บล็อกแรกของปี 2559